เงินได้ออกจากงานหรือเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียว เพราะเหตุออกจากงาน
ตามประมวลรัษฎากรเป็นเงินได้พึงประเมินตาม มาตรา 40(1) และ (2) ซึ่งแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับเงินได้ (ฉบับที่ 45) ดังนี้
- เงินได้ที่คำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการเช่นเดียวกับวิธีการคำนวณบำเหน็จตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
- เงินที่จ่ายจากกองทุนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
- เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
- เงินได้พึงประเมินที่จ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการตาม (1)
โดยมีเงื่อนไขการได้รับยกเว้นภาษี ดังนี้
เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
- เป็นไปตามเงื่อนไข โดยยกเว้นไม่เกินค่าจ้าง 300 วันสุดท้าย และไม่เกิน 300,000 บาท
เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- ยกเว้น กรณี ตาย ทุพพลภาพ เกษียนอายุ ออกจาก เมื่ออายุ 55 ปี หรือคงเงินหรือผลประโยชน์ไว้
เงินบำเหน็จดำรงชีพ
- ยกเว้นไม่เกิน 15 เท่า ของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการ
เอกสารประกอบการคำนวณภาษีเมื่อออกจากงาน
1.หนังสือแจ้งเหตุออกจากงานเป็นหนังสือหรือเอกสารที่ระบุสาเหตุการ
- เช่น เลิกจ้างเนื่องจากลดขนาดองค์กร สิ้นสุดสัญญาจ้างหรืออื่น ๆ
- เป็นเอกสารสำคัญ สำหรับคนที่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย เพราะจะต้องนำไปใช้เพื่อแสดงว่าคนมีสิทธิได้รับยกเว้นเงินชดเชยตามมาตรา 118 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานหรือไม่
- โดยกรณีที่จะได้รับยกเว้นเงินชดเชยตามกฎหมายต้องเป็นการให้ออกจากงานด้วยความไม่สมัครใจ (ไม่รวมถึงค่าชดเชยที่ลูกจ้างหรือพนักงานได้รับเพราะเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างซึ่งไม่ได้รับยกเว้น)
2.หนังสือรับรองระยะเวลาการทำงาน
- ระบุวันที่เริ่มทำงานถึงวันสุดท้ายที่ทํางานหรือจำนวนปีที่ทำงานก่อนที่จะออกจากงาน
- ในส่วนนี้สำหรับผู้มีอายุงานเกิน 5 ปี จำเป็นต้องมีหลักฐานเพื่อใช้สิทธิ์ในการแยกคำนวณภาษีด้วยใบแนบแบบแสดงรายการกรณีออกจากงาน (สำหรับ ภ.ง.ด.90และ ภ.ง.ด.91) ซึ่งจะแยกคำนวณค่าใช้จ่าย และภาษีแยกต่างหากจากเงินเดือน
3.หนังสือรับรองเงินเดือน 12 เดือนสุดท้าย
- โดยระบุเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือน สำหรับคนที่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายหรือผู้มีเงินได้ที่ได้สิทธิแยกคำนวณภาษีด้วยใบแนบฯ กรณีเลือกไม่นำไปรวมคำนวณภาษีกันเงินอื่น
4.หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
- กรณีออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกรณีคงกองทุนสำรองเกี่ยงชีพไว้ ต้องมีหลักฐานการคงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ สำหรับเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรณีได้รับยกเว้นต้องเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 188 ) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ
- เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
5.กรณีเป็นเงินได้พึงประเมินที่จ่ายครั้งเดียว เพราะเหตุออกจากงานที่มีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการตาม (ก)
- ซึ่งแต่ละบริษัทหรือองค์กรอาจมีเงื่อนไขแตกต่างกัน อาจจะมีการจ่ายหรือไม่จ่ายเงินได้ตัวนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อตกลงแต่ละบริษัทและองค์กร
6.กรณีเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) หรือ (2)
- ที่ได้รับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ. ศ. 2541 หมวด 11 ค่าชดเชย มาตราที่ 118-122 ซึ่งต้องพิจารณาว่าเป็นไปตามเงื่อนไข และได้รับยกเว้นในได้ตามกฎกระทรวฉบับที่ 126 พ.ศ.2509 ข้อ 2 (51) รึเปล่า